–ตัวอย่างเมนูบาร์ฟสำหรับแมวทุกช่วงวัย–
.
.
สำหรับผู้ที่เลี้ยงแมวและอยากเริ่มให้น้องเปลี่ยนมากินบาร์ฟ ถือเป็นข่าวดี เพราะแมวจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นแมวทุกสายพันธ์ย่อมสามารถกินอาหารดิบได้ ผู้เลี้ยงสามารถหักดิบให้น้องเหมียวกินบาร์ฟได้ทันที โดยแทบไม่พบผลข้างเคียง (เช่น อาเจียน ถ่ายเหลวหรือท้องเสีย)
.
แต่สิ่งที่ควรทราบ แมวเป็นสัตว์ค่อนข้างเลือกกินและไม่ยอมเปลี่ยนชนิดอาหารง่ายๆ แมวที่มีนิสัยกินเก่ง เช่น แมวไทย,เบงกอล หรือแมวที่เลี้ยงแบบปล่อยจะเปลี่ยนมากินบาร์ฟง่ายกว่าแมวสายพันธ์ที่เลี้ยงในระบบปิดอย่างเปอร์เซีย สก็อตติชโฟลด์หรือ อเมริกันช็อตแฮร์ (และนิยมชอบกินอาหารสำเร็จรูปมากกว่าด้วย)
.
จึงเป็นหน้าที่ของผู้เลี้ยงที่ต้องให้เวลาแมวที่เลือกกินปรับตัวสักนิด (อย่างน้อย 3-7วัน) พอเริ่มคุ้นกลิ่นและรสชาติ เดี๋ยวน้องจะยอมกินเองโดยไม่ต้องฝืนบังคับป้อนเลยครับ
.
.
ส่วนผสมบาร์ฟสำหรับแมวทุกสายพันธ์ 1 กก.
.
เนื้ออกไก่ลอกหนัง 500 กรัม
โครงไก่ลอกหนังบดละเอียด 300 กรัม
หัวใจไก่ 50 กรัม
ตับไก่ 50 กรัม
ต้นอ่อนทานตะวัน 10 กรัม
ถั่วงอก 10 กรัม
แครอท 10 กรัม
แอปเปิ้ล 10 กรัม
ไข่ไก่ดิบ(เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้งแท้ 1/2 ช้อนชา
ทอรีนผง (ไม่จำเป็น) 1/4 ช้อนชา
วิตามินซี 1,000 mg 1 เม็ด
.
วิธีทำ
.
1. นำส่วนผสมที่เป็นกระดูกดิบ เนื้อสด
และเครื่องใน มาสับหรือบดให้ละเอียด
2. ถัดมาให้นำผักและผลไม้มาปั่นร่วมกัน
ให้ละเอียด (ใส่ก็ดีหรือจะไมใส่ก็ได้)
3. นำวัตถุดิบหลักและไข่ดิบ เทใส่ชามคลุก ผสมรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน และต้องแน่ใจว่าบดละเอียดที่สุด เพราะถ้ายังเป็นชิ้นๆ แมวบางตัวแทบไม่กินเลย
4. จากนั้นใส่โยเกิร์ต น้ำมันมะพร้าว
อาหารเสริม และวิตามินที่บดแล้วลงไป
5. นำบาร์ฟแบ่งใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
พร้อมให้น้องแมวกินอย่างเอร็ดอร่อย
.
.
—————————————————-
สำหรับการให้บาร์ฟแก่น้องแมว
จะเน้นให้ปริมาณตามน้ำหนักตัวดังนี้
1-2 กก. >> 75-100 กรัมต่อวัน แบ่ง 2 มื้อ
2-4 กก. >> 100-150 “
4-6 กก. >> 150-200 “
(หรือจะให้เฉลี่ยวันละ 2-3 % ของนน.ตัวก็ได้)
*สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับนิสัย
การกินของแมวแต่ละตัว และการทำหมันครับ
.
*ยกตัวอย่าง น้องแมวพันธ์เปอร์เซีย อายุ 3 ปี น้ำหนัก 3.5 กก. คำนวนออกมาแล้วให้ทานบาร์ฟวันละ 70-100 กรัม แบ่งให้ทานวันละ 2 มื้อ เฉลี่ยมื้อละ 35-50 กรัม
—————————————————
.
.
1.สามารถปรับปริมาณเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ขึ้นอยู่กับนิสัยการกิน รวมถึงความถี่การออกกำลังกายในแต่ละวัน (กินเก่งก็ให้เยอะ กินน้อยก็ให้น้อย แต่ให้ปริมาณในช่วง%ที่บอกไป)
.
2. ในส่วนที่เป็นโครงไก่นั้น หมออยากแนะนำให้สั่งซื้อแบบบดสำเร็จรูป เพราะมีความละเอียดมากกว่าการสับด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าแมวเป็นสัตว์ที่กินยากและกรามเล็ก ถ้าให้บาร์ฟที่ปั่นกระดูกดิบไม่ละเอียด ก็มีโอกาสเมินสูงครับ
.
3.อาหารเสริมมีความสำคัญเพียง 5-10% และไม่จำเป็นต้องใส่ให้ครบทุกตัว ยิ่งถ้าน้องแมวกินง่ายมาก จะใส่แค่เนื้อสัตว์ กระดูกดิบ เครื่องใน และไข่ดิบ เท่านี้ก็เพียงพอครับ
.
4.สูตรเมนูนี้หมอคำนวนโภชนาการสำหรับบาร์ฟ 1 กก.เท่านั้น ถ้าจะทำปริมาณเยอะกว่านี้ก็ต้องคำนวนปริมาณการให้อาหารเสริมใหม่หมด (ไม่แนะนำให้ใส่แบบ X2 X3 เพราะทำให้สารอาหารผิดเพี้ยน) โดยสูตรนี้เหมาะสำหรับให้ผู้เลี้ยงมือใหม่ทำบาร์ฟแบบง่ายๆด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อผลิตไปขาย
.
ขอให้เมนูนี้มีประโยชน์แก่แฟนเพจท่านที่เลี้ยงแมว และอยากลองทำบาร์ฟด้วยตัวเอง ลองเข้าครัวและหัดทำตามได้เลยครับ:)
.
.