3วิธีที่ช่วยให้สุนัขเปลี่ยนมากินบาร์ฟอย่างได้ผล
ตอนที่ 2.8 #3วิธีที่ช่วยให้สุนัขเปลี่ยนมากินบาร์ฟอย่างได้ผล
.
🐶เราสามารถให้น้องหมาทุกสายพันธ์🐕
หัดกินบาร์ฟได้เมื่ออายุ 40 วัน 
หรือประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
เพราะเป็นช่วงที่ฟันเริ่มขึ้น 
หรือหย่านมเรียบร้อยแล้ว
.
โดยช่วงเวลาฝึกกินบาร์ฟดีที่สุดสำหรับสุนัข
จะอยู่ในช่วง 1-12 เดือนแรก เนื่องจากเป็น
วัยเจริญเติบโต มีนิสัยกินเก่ง ไม่เลือกกินและ 
ยังไม่ติดกลิ่นหรือรสชาติของอาหารสำเร็จรูป
.
แต่ถ้าสุนัขที่กินอาหารสำเร็จรูปอย่างเดียว 
หรือเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย แล้วอยากลองเปลี่ยน
กลับมากินบาร์ฟอาจต้องให้เวลาปรับตัวบ้าง
.
🤓โดยวิธีที่หมอแนะนำสำหรับการปรับเปลี่ยน
มาให้อาหารบาร์ฟจะมีอยู่ “3 วิธี” ด้วยกัน 
ลองนำไปปรับใช้แก่น้องหมาที่เลี้ยงดูนะ
แล้วจะรู้ว่า การให้บาร์ฟแก่พวกเขานั้น
ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยครับ
.
╔═══════════╗
1️⃣แบบ “หักดิบ”
ระยะเวลา 1-3 วัน
╚═══════════╝
.
คือเปลี่ยนจากที่เคยกินอาหารสำเร็จรูป
มากินบาร์ฟทันที สำหรับวิธีนี้เหมาะกับ
ลูกสุนัขหรือสุนัขวัยเด็กที่อายุไม่เกิน 1 ปี
หรือเป็นวัยโตที่มีสุขภาพแข็งแรง 
มีระบบย่อยอาหารปกติ ถ่ายเป็นก้อน
ไม่มีประวัติอาเจียนหรือถ่ายเหลวบ่อย
.
👉ลองสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
ในช่วง 1-3 วันแรก ถ้าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
หลังกินบาร์ฟก็ให้กินต่อไปได้เลย
.
แต่ถ้ามีอาการผิดปกติดังกล่าว ควรพักการให้
บาร์ฟไปก่อน แล้วค่อยใช้วิธีที่ 2 หรือ 3 แทน
.
╔═════════════╗
2️⃣แบบ “ค่อยเป็นค่อยไป”
ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
╚═════════════╝
.
แนะนำให้ใช้วิธีนี้สำหรับสุนัขที่มีอายุ
ในช่วง 1-7 ปี และมีนิสัยเลือกกิน 
โดยระยะเวลาการปรับจะอยู่ที่ 1 สัปดาห์
.
🦴นำบาร์ฟและอาหารสำเร็จรูปที่ให้
อยู่ก่อนหน้ามาผสมกัน ตามสัดส่วนดังนี้ครับ
.
“ขอแทนอาหารเก่าเป็นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป 
และแทนอาหารใหม่เป็นบาร์ฟนะครับ”
.
-วันที่ 1 >> อาหารเก่า 75% อาหารใหม่ 25%
-วันที่ 2 >> อาหารเก่า 75% อาหารใหม่ 25%
-วันที่ 3 >> อาหารเก่า 50% อาหารใหม่ 50%
-วันที่ 4 >> อาหารเก่า 50% อาหารใหม่ 50%
-วันที่ 5 >> อาหารเก่า 25% อาหารใหม่ 75%
-วันที่ 6 >> อาหารเก่า 25% อาหารใหม่ 75%
-วันที่ 7 >> อาหารเก่า 0% อาหารใหม่ 100%
.
ผู้เลี้ยงบางท่านอาจเคยได้ยิน ว่าไม่ควรผสม
อาหารเม็ดกับบาร์ฟลงไปในชามเดียวกัน 
แต่ถ้าเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ รับรองว่ายังให้ได้
และไม่มีปัญหาทางสุขภาพแน่นอนครับ
(แต่อย่าให้บ่อยจนติดเป็นนิสัยนะ)
.
เมื่อผ่านไป 7 วันแล้วไม่พบผลข้างเคียงใดๆ 
ถือว่าประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนอาหาร 
แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่บ้าง ผู้เลี้ยงสามารถ
ยืดระยะเวลาต่อไปอีก 1-2 สัปดาห์ เพื่อรอ
ร่างกายและระบบย่อยอาหารของพวกเค้า
มีความพร้อมมากกว่านี้
.
╔═════════════╗
3️⃣แบบ “อดทนและเข้าใจ”
ระยะเวลา 1-2 เดือน
╚═════════════╝
.
วิธีนี้เหมาะสำหรับสุนัขที่กินอาหารสำเร็จรูป
เป็นเวลานานเกิน 5 -10 ปี หรืออายุเกิน 10 ปี
เป็นโรคIBD / แพ้เนื้อสัตว์ / รวมถึงมีโรค
ประจำตัวต่างๆ โดยให้กินตามสัดส่วนนี้ครับ
.
-สัปดาห์ที่ 1 อาหารใหม่ 25% อาหารเก่า 75%
-สัปดาห์ที่ 2 อาหารใหม่ 50% อาหารเก่า 50%
-สัปดาห์ที่ 3 อาหารใหม่ 75% อาหารเก่า 25%
-สัปดาห์ที่ 4 เปลี่ยนเป็นอาหารใหม่ได้ 100% 

❗️ถ้าขึ้นสัปดาห์ที่ 4 แล้วยังเปลี่ยนเป็นบาร์ฟ
100%ไม่ได้ ให้ยึดหลักสัปดาห์ที่ 3 ไปเรื่อยๆ 
โดยดูสุขภาพโดยรวมของสุนัข แต่ถ้าประเมิน
แล้วสุนัขไม่สามารถปรับมากินบาร์ฟได้จริงๆ 
ก็เปลี่ยนมาให้อาหารปรุงสุกแทน แต่ควรเสริม
วิตามินและแร่ธาตุเสริมลงไปด้วยนะครับ

(ดูจากค่าผลเลือดและปรึกษาสัตว์แพทย์
ที่เชี่ยวชาญด้านโภชนาการโดยตรงครับ)
.
===============================
.
🔥ข้อควรระวัง🔥
.
สุนัขโตหรือสูงวัยที่เปลี่ยนมากินบาร์ฟ
ในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น 
ซึม ถ่ายเหลว อาเจียนออกมาเป็นน้ำย่อย
.
สาเหตุเกิดจากระบบย่อยอาหารอ่อนแอ 
หรือน้ำย่อยมีประสิทธิภาพลดลง 
จากการกินอาหารสำเร็จรูปนานเกินไป 
ซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติครับ
.
โดยร่างกายจะค่อยๆปรับตัว และภาวะเหล่านี้
จะหายไปเองใน 7-14 วัน แต่ถ้านานเกินกว่านี้
แล้วยังมีอาการ ควรรีบพาสุนัขไปตรวจสุขภาพ
เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่ระบบย่อยอาหารส่วน
ไหน หรือเป็นโรค *Leaky Gut Syndromes 
ถ้าเจอก็ต้องรีบรักษาทันทีครับ

*LGS คือภาวะลำไส้ดูดซึมผิดปกติ สาเหตุอาจ
เกิดจากสุนัขกินอาหารที่ไม่เหมาะสมต่อระบบ
ย่อยอาหารเป็นเวลานาน เช่น ข้าว ถั่วเหลือง 
แป้ง รวมถึงอาหารที่มีสารกันบูดและน้ำตาล
อีกทั้งการกินยาปฏิชีวนะ หรือสเตียรอยด์
มากเกินไปย่อมส่งผลให้เป็นโรคนี้ได้เช่นกัน
.
เมื่อเกิดภาวะนี้ ทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึม
สารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ
และยังเสี่ยงเกิดแก็สในกระเพาะ ,ถ่ายเหลว
ท้องเสียเรื้อรัง และมีปัญหาสุขภาพบ่อย
.
<มุมมองหมอเป็ด>
.
.
3 วิธีข้างต้นนี้ ขอให้เป็นแนวทางแก่มือใหม่
สายบาร์ฟไปปรับใช้แก่น้องหมาของตัวเอง
ถ้าร่างกายเค้าเริ่มปรับตัวได้ จะเห็นลักษณะ
อุจจาระเป็นก้อนเล็กและมีปริมาณน้อยลง
.
และถ้าปรับได้อย่างสมบูรณ์ อุจจาระจะเป็น
ก้อนแห้งรุ่ยและแทบไม่มีกลิ่นเลย
นั่นแปลว่าร่างกายพวกเค้าสามารถดูดซึม
สารอาหารในบาร์ฟได้จนหมดนั่นเอง
.
อย่าลืมว่าการให้อาหารประเภทนี้ ช่วงแรก
ต้องอดทนเป็นอย่างมาก เพราะอาจมีปัญหา
หรือผลข้างเคียงตามมา แต่ในระยะยาวแล้ว 
หมอกล้ายืนยันว่า บาร์ฟจะช่วยให้น้องหมา
มีสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าให้ถูกวิธีครับ
.
.
❤️With Love Your Pets #หมอเป็ด🐤

 

ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับบาร์ฟ
สนใจบาร์ฟพรีเมี่ยมและเรียนทำอาหาร
หมอเป็ด สัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านบาร์ฟ