
–6 โรคฮิตที่การกินบาร์ฟช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้–
.
.
ข้อดีของการทานบาร์ฟนั้นมีอยู่มากมาย และยังช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ หมอขอยกตัวอย่างโรคอันตรายที่การให้บาร์ฟสามารถช่วยฟื้นฟูรักษา(ไม่มากก็น้อย) หรือบรรเทาภาวะเจ็บป่วยได้ ที่เห็นชัดมีดังนี้ครับ
.
1.โรคเบาหวาน
.
การกินบาร์ฟมีผลทำให้ค่าระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของคาร์บเป็นส่วนประกอบ (ข้าว ข้าวโพด ธัญพืช ฯลฯ) บาร์ฟอาจไม่ได้ช่วยรักษาโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ช่วยบรรเทาอาการ โดยเฉพาะในผักผลไม้ดิบจะมีกากใยที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือด
.
2.โรคตับอ่อนอักเสบ
.
ปกติแล้วตับอ่อนของหมาแมวจะผลิตเอนไซม์เพื่อใช้ย่อยเนื้อสัตว์ในรูปแบบดิบ แต่เมื่อให้ทานอาหารสำเร็จรูปเป็นประจำรวมถึงกินอาหารปรุงสุกที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ย่อมส่งผลให้เกิดภาวะอักเสบที่ตับอ่อน การปรับมาให้อาหารดิบที่มีโปรตีนและไขมันคุณภาพ นอกจากช่วยลดการทำงานของตับอ่อน ยังช่วยกระตุ้นการสร้างอินซูลินเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ที่สำคัญในผักผลไม้สดยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารที่กินเข้าไป เป็นการผ่อนภาระย่อยของตับอ่อนได้
.
3.โรคอ้วน
.
สุนัขและแมวจะเริ่มเสี่ยงน้ำหนักเกินเมื่ออายุ 4-7 ปีขึ้นไป สาเหตุเพราะเจ้าของให้อาหารมากเกินความต้องการ ไม่ค่อยพาไปออกกำลังกาย ทำหมันแล้ว รวมไปถึงการให้อาหารสำเร็จรูปเกรดล่างหรืออาหารปรุงสุกที่เน้นข้าว เพียงปรับมากินบาร์ฟจะช่วยเสริมระบบภูมิต้านทานและเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หมาแมวจะมีรูปร่างสมส่วนและเริ่มน้ำหนักตัวลดลง เมื่อให้กินบาร์ฟอย่างต่อเนื่อง
.
4.โรคไต
.
อาหารสำเร็จรูปเกรดล่างนั้นอันตรายกว่าที่คิดครับ เพราะผลิตจากโปรตีนด้อยคุณภาพ (พวกผลพลอยได้จากสัตว์ปีกหรือปลาป่น กลูเทนข้าวโพดและน้ำมันปาล์ม) ยังไม่นับสารสังเคราะห์ต่างๆที่ผสมลงไป ส่งผลให้ไตทำงานหนักและเสื่อมก่อนวัยอันควร การปรับมาให้บาร์ฟที่มีโภชนาการสมดุลจะช่วยป้องกันภาวะไตวายเรื้อรัง ข้อดีของบาร์ฟอีกอย่างคือเป็นอาหารที่มีความชุ่มชื้นเยอะ หมาแมวจะไม่ขาดน้ำ อีกทั้งปลอดภัยจากสารกันบูดหรือสารแต่งกลิ่น เพราะบาร์ฟคืออาหารจากธรรมชาติ
.
5.โรคข้ออักเสบ
.
บาร์ฟจะช่วยบำรุงข้อต่อและกระดูกได้ดีกว่าอาหารประเภทอื่น โดยเฉพาะการให้กระดูกดิบที่มีส่วนประกอบของแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัส ช่วยสร้างเนื้อกระดูกรวมถึงเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ อาหารสดดิบยังให้พลังงานและช่วยให้ร่างกายของน้องหมาน้องเหมียวเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และช่วยลดการอักเสบที่ข้อต่อ เพราะบาร์ฟไม่มีส่วนผสมของแป้งหรือน้ำตาลจากธัญพืชที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดการอักเสบที่ข้อต่อ
.
6.โรคปริทันต์
.
ทั้งปัญหาคราบหินปูน เหงือกอักเสบ ฟันโยก มีกลิ่นปากเหม็น รวมถึงแผลในช่องปาก สาเหตุมักมาจากการให้อาหารที่ไม่เหมาะสมต่อสุนัขและแมว ทั้งชนิดและเกรดของอาหาร ขนาดเม็ดอาหาร ทำให้มีเศษอาหารตามซอกฟันนานวันจนก่อเป็นหินปูน และลุกลามจนเรื้อรังในที่สุด ผู้เลี้ยงสามารถป้องกันด้วยการแปรงฟัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (แต่เชื่อเถอะว่าส่วนใหญ่ไม่ทำกันหรอก) แต่การปรับมากินบาร์ฟที่มีส่วนผสมของกระดูกดิบ สามารถช่วยขัดฟันไปในตัว และยังช่วยบริหารกรามทำให้น้องหมามีสุขภาพจิตดี ลดความเครียดได้
.
ตอนนี้บรรดาสัตวแพทย์ทางเลือกในต่างประเทศ เริ่มนิยมรักษาสัตว์ป่วยโดยให้กินอาหารดิบควบคู่การรักษาทางยา และเห็นผลชัดเจนว่าสัตว์ป่วยมีอัตราฟื้นตัวและหายป่วยเร็วกว่าที่คิด
.
จะเห็นได้ว่าบางโรคที่อันตราย เพียงให้สัตว์ป่วยเปลี่ยนมากินอาหารที่เหมาะสมต่อสภาวะโรค อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมากินบาร์ฟ 100 % แค่หมุนเวียนประเภทอาหารบ้าง ทั้งอาหารสูตรประกอบรักษาโรค, อาหารปรงสุกที่ถูกสัดส่วน, กินผักผลไม้, หรือกินบาร์ฟเป็นบางมื้อ แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะเป็นการรักษาแบบประคับประคอง และเพิ่มความสุขให้กับสัตว์ป่วยด้วยรสชาติอาหารที่ไม่จำเจ
.
ดังนั้น หากหมาแมวของท่านมีความเสี่ยงเป็น 1 ใน 6 โรคฮิต แต่ยังไม่ได้อยู่ระดับรุนแรง ไม่แน่การฝึกกินบาร์ฟตั้งแต่วันนี้อาจช่วยได้จริงๆครับ:)
.
.


