วิธีคำนวณการให้อาหารปรุงสุกสำหรับสุนัขทุกช่วงวัย

เขียนโดย: หมอเป็ด – สัตวแพทย์เจ้าของแบรนด์อาหารสุขภาพ BARFnista 

การให้อาหารปรุงสุก (Home-cooked Food) แก่สุนัข เป็นทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงที่ใส่ใจสุขภาพน้องหมาและต้องการหลีกเลี่ยงสารปรุงแต่งจากอาหารสำเร็จรูป
แต่หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ “จะรู้ได้ยังไงว่าให้อาหารในปริมาณที่พอดี?” วันนี้หมอจะมาแนะนำวิธีคำนวณที่เข้าใจง่าย และใช้ได้จริงกับทุกบ้านครับ


✅ หลักการวางแผนอาหารปรุงสุกที่หมอใช้

อาหารทุกเมนูเมื่อปรุงเสร็จแล้ว (ตามคลิปที่หมอสาธิต) หมอจะแบ่งเป็น 3-4 ชามเท่าๆ กัน
โดยเฉลี่ย 1 ชามจะมีน้ำหนักประมาณ 150-200 กรัม หรือจะหาเครื่องชั่งดิจิตอลมาชั่งเพื่อความแม่นยำก็ได้
ซึ่งเป็นหน่วยวัดกลางที่หมอใช้สำหรับวางแผนการให้อาหารในแต่ละวัน


🐕‍🦺 ตารางปริมาณอาหารปรุงสุก “แบบละเอียด” สำหรับสุนัขโต (1–7 ปี) 
*เป็นปริมาณขั้นต่ำสำหรับใช้คุมน้ำหนัก ป้องกันภาวะน้ำหนักเกิน (โรคอ้วน) 

น้ำหนักสุนัข (กก.)ปริมาณอาหารต่อวัน
ไม่เกิน 2.5 กก.¼ – ⅓ ชาม (50–65 กรัม)
2.5–5 กก.⅓ – ½ ชาม (65–100 กรัม)
5–10 กก.½ – ¾ ชาม (100–150 กรัม)
10–15 กก.¾ – 1 ชาม (150–200 กรัม)
15–20 กก.1 – 1.5 ชาม (200–300 กรัม)
20–22.5 กก.1.5 – 2 ชาม (300–400 กรัม)
22.5–27 กก.2 – 2.25 ชาม (400–450 กรัม)
27–32 กก.2.25 – 2.5 ชาม (450–500 กรัม)
32–36 กก.2.5 – 2.75 ชาม (500–550 กรัม)
36–45 กก.2.75 – 3.25 ชาม (550–650 กรัม)
มากกว่า 45 กก.3.5 – 4 ชาม (700–800 กรัม)

🔄 สามารถแบ่งเป็น 1 มื้อใหญ่ หรือ 2 มื้อเล็กก็ได้ ขึ้นกับนิสัยของน้องหมา แต่ถ้ากินเท่านี้แล้วไม่อิ่ม ให้เพิ่มปริมาณได้อีก 20-30% ของมื้อ


🧮 ทางเลือกง่ายๆ: คำนวณตามเปอร์เซ็นต์น้ำหนักตัว

หากไม่สะดวกใช้ชามวัดแบบด้านบน สามารถคำนวณแบบเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวได้:


🐶 วิธีคำนวณสำหรับ “ลูกสุนัขวัยเด็กกำลังเจริญเติบโต”

สุนัขในวัยขวบแรกต้องการพลังงานสูงกว่าสุนัขโต เพราะกำลังเจริญเติบโต สร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และภูมิคุ้มกัน

ช่วงอายุปริมาณอาหารความถี่
2–6 เดือน8–10% ของน้ำหนักตัวแบ่งเป็น 3–4 มื้อ/วัน
7–12 เดือน4–7% ของน้ำหนักตัวแบ่งเป็น 2–3 มื้อ/วัน

🧠 การให้อาหารมากขึ้นในวัยนี้สำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างและระบบต่างๆ ของร่างกาย

สำหรับสุนัขโต (1–7 ปี)

  • ให้ 2–3% ของน้ำหนักตัว/วัน สำหรับสุนัขพันธ์ใหญ่ และ 3-4 % สำหรับ สุนัขพันธ์เล็กหรือพันธ์กลาง

เช่น สุนัขพันธ์บีเกิ้ลหนัก 10 กก. → ให้ 300–400 กรัม/วัน แบ่ง 2 มื้อ มื้อละ 150–200กรัม


สำหรับสุนัขสูงวัย  (7 ปี ขึ้นไป )

  • ให้ 1–2% ของน้ำหนักตัว/วัน สำหรับสุนัขพันธ์ใหญ่ และ 2-3 % สำหรับ สุนัขพันธ์เล็กหรือพันธ์กลาง

เช่น สุนัขพันธ์โกลเด้นหนัก 30 กก. → ให้ 300–600 กรัม/วัน แบ่ง 2 มื้อ มื้อละ 150–300 กรัม

****สำหรับสุนัขหมาแก่ที่สุขภาพแข็งแรง ยังสามารถให้ได้สูงสุด คือ 3-4 %  แต่ต้องดูปัจจัยโดยรวมให้รอบคอบ ควรปรึกษาคุณหมอประจำเคสในเรื่องของปริมาณอาหารอยู่เสมอ****

❄️ วิธีเก็บอาหารปรุงสุกให้สดใหม่

หากทำอาหารเป็นชุดไว้ล่วงหน้า แนะนำให้ ตักแบ่งใส่กล่องหรือถุงซิปล็อก ตามปริมาณในแต่ละวันหรือแต่ละมื้อ

  • เก็บในช่องฟรีซ: อยู่ได้นาน 7–14 วัน

  • หากต้องการเก็บนานกว่านี้ (30–45 วัน) → ยังเก็บได้แต่ “ความหอมและรสชาติจะค่อยๆ ลดลง”

✅ หมอแนะนำใช้กล่องสุญญากาศ จะช่วยให้คงคุณภาพอาหารได้นานขึ้น


🧪 วิตามินและแร่ธาตุ: สิ่งที่ “จำเป็นต้องเสริม” กับอาหารปรุงสุก

อาหารปรุงสุกมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ย่อยง่าย ปลอดภัย สะอาด
แต่ข้อจำกัดคือ อาจขาดแร่ธาตุสำคัญบางชนิด โดยเฉพาะ แคลเซียม

หมอแนะนำเสริม:

  • Cal-Mag ของ Pets Select – มีแคลเซียมชนิดคีเลท (Chelated) ดูดซึมดีเยี่ยม

  • เสริมด้วย Omega-3, วิตามิน B-complex, และแร่ธาตุอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบ

❗ ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อนี้เท่านั้น ขอให้เลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และเหมาะสมกับงบของผู้เลี้ยง

📌 จำไว้ว่าทุกครั้งที่ทำอาหารปรุงสุกต้องใส่ “แคลเซียม” เสมอ เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะดึงแคลเซียมจากกระดูกของตัวเองมาใช้


🎯 หมอสรุปแบบเข้าใจง่าย:

สิ่งที่ต้องรู้คำอธิบาย
สุนัขโตให้ 2–3% ของน้ำหนักตัว/วัน หรือดูตามตารางชาม
ลูกสุนัขให้ 4–10% ของน้ำหนักตัว/วัน แบ่ง 2–4 มื้อ
จัดเก็บอาหารแบ่งชาม ล็อกความสดในกล่องหรือถุงสุญญากาศ
เสริมวิตามินเสริมแคลเซียม + ไขมันดี เช่น Omega-3
ความยืดหยุ่นปรับตามนิสัยกินและกิจกรรม (หากไม่แน่ใจ ปรึกษาหมอได้เลยครับ!)

👨‍⚕️ สุดท้ายจากหมอเป็ด:

อาหารปรุงสุกเป็นการ “เลี้ยงแบบมีใจ”
และถ้าคุณให้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง น้องหมาของคุณจะได้รับโภชนาการที่เหมาะสม
มีสุขภาพดีทั้งระบบย่อย ขน ผิวหนัง ภูมิคุ้มกัน และจิตใจที่เบิกบาน

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องเมนู วัตถุดิบ หรือการวางแผนเมนูรายเดือน
📲 ทักมาได้ที่ Line@ : @barfnista
หมอยินดีช่วยดูแลครับ 💚