–ทำไมหมาแมวที่กินบาร์ฟถึงทานน้ำน้อย–
.
.
ช่วงแรกที่เจ้าของเปลี่ยนมาให้หมาแมวกินบาร์ฟ จะสังเกตถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือเด็กๆจะทานน้ำน้อยลง เมื่อเทียบกับตอนที่ให้อาหารสำเร็จรูป นี่ไม่ใช่ปัญหา แต่หมายถึงพวกเขาได้รับปริมาณน้ำที่เพียงพอจากการกินบาร์ฟ
.
เพราะบาร์ฟคืออาหารสดที่อุดมไปด้วยน้ำและความชุ่มชื้น ไม่ได้ผ่านความร้อนหรือการแปรรูปต่างๆ โดยเฉพาะการทำให้แห้ง (Dehyration) ที่พบในการกระบวนการผลิตอาหารเม็ด เป็นการรีดน้ำออกจนหมดเพื่อยืดอายุและจัดเก็บได้นาน(ประมาณ 3-5 ปี) แต่บาร์ฟจะเก็บได้นาน 6 เดือนเท่านั้นในอุณหภูมิแช่แข็ง
.
อาหารสำเร็จรูปที่ผ่านการผลิตมากมายทำให้เป็นเม็ดแห้ง เมื่อกินแล้วจึงต้องการดื่มน้ำเพิ่มเติมปริมาณมาก ต่างจากหมาแมวที่กินบาร์ฟก็เหมือนทานน้ำเข้าไปด้วย และยังได้ประโยชน์จากกรดอะมิโนและวิตามินต่างๆ โดยอาหารบาร์ฟจะมีความชุ่มชื้นของน้ำราว 70% ในขณะที่อาหารเม็ดมีน้ำประกอบเพียง 5-10% เท่านั้น ส่วนอาหารเปียกจะมีน้ำประมาณ 20-30 %
.
ดังนั้นหากสัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมทานน้ำน้อย และเจ้าของให้ทานอาหารเม็ดอย่างเดียว อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ นำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว แนะนำให้สลับไปให้อาหารเปียกบ้าง หรือลงทุนซื้อน้ำพุก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะหมาแมวจะชอบเลียน้ำไหลผ่านมากกว่าน้ำนิ่งในชาม แต่ถ้ากินบาร์ฟเป็นประจำ โอกาสเสี่ยงต่อภาวะขนาดน้ำ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่นครับ
.
.
น้ำจัดเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญและจำเป็นที่สุดต่อร่างกาย(ทั้งมนุษย์และสัตว์) ช่วยดูดซึมสารต่างๆ เช่น วิตามินบางชนิด ช่วยทำปฏิกิริยาย่อยโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย เป็นส่วนประกอบของข้อต่อ ,ตา และอวัยวะภายในต่างๆ ฯลฯ การที่หมาแมวกินน้ำน้อยจะส่งผลทำให้กินอาหารลดลง ระบบสืบพันธุ์ไม่สมบูรณ์ เจริญเติบโตช้า ทำให้ระบบขับของเสียและสารพิษที่ไตและตับมีปัญหา
.
พยายามให้น้องหมาน้องแมวทานน้ำดื่มแบบสำเร็จ หรือน้ำกรอง หลีกเลี่ยงให้ทานน้ำประปา น้ำฝน หรือน้ำขังตามแหล่งต่างๆ แม้ให้น้ำที่คุณภาพดีเพียงใด แต่ภาชนะที่ใช้กลับสกปรกนั้นก็ส่งผลให้สัตว์เจ็บป่วย แนะนำให้ใช้ภาชนะสแตนเลสหรือเซรามิก เพราะเป็นรอยขีดข่วนยากกว่าภาชนะพลาสติก ซึ่งรอยขีดข่วนนั้นเป็นแหล่งสะสมและเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ง่าย
.
.
