–เริ่มต้นกินบาร์ฟ ควรให้ปริมาณเท่าไรดี?–
.
.
เป็นเรื่องปกติที่ผู้เลี้ยงมือใหม่มักกังวล และกะไม่ถูกว่าควรให้บาร์ฟปริมาณเท่าไร จึงพอดีต่อความต้องการของหมาแมวในแต่ละวัน อาจใช้วิธี “นับแคลอรี่”เหมือนในคนก็ได้ แต่หมอไม่แนะนำ เพราะค่อนข้างซับซ้อนเพราะต้องจำตัวเลขมากมาย
(แต่ถ้าอยากรู้ เดี๋ยวแปะลิงค์คำนวนไว้ให้นะ)
.
เลยขอเลือกวิธีที่นิยม และเข้าใจง่ายสุด
คือ “การคำนวนปริมาณบาร์ฟโดยเทียบ % ตามน้ำหนักตัว”
.
โดยผู้เลี้ยงต้องทราบก่อนว่าน้ำหนักปัจจุบันของเด็กๆคือเท่าไร แล้วคำนวน%ตามช่วงวัย จากนั้นค่อยแบ่งเป็นมื้ออีกที ขอแบ่งตามช่วงอายุของสุนัขเพื่อง่ายต่อการเข้าใจ ดังนี้ครับ
.
ปริมาณในการกินนั้นจะสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว โดยคิดเป็น%
.
สุนัขอายุ 1-6 เดือน ทาน 8-10 % (3-4 มื้อ)
สุนัขอายุ 7-12 เดือน ทาน 4-7 % (2-3 มื้อ)
สุนัขโตเต็มวัย 1-7 ปี ทาน 2-3 % (1-2 มื้อ)
สุนัขอยากเพิ่มนน. ทาน 3-4 % (2-3 มื้อ)
สุุนัขอยากลดนน. ทาน 1.5 % (1-2 มื้อ)
สุนัขสูงวัย 7 ปีขึ่นไป ทาน 1-2 % (1-2 มื้อ)
.
ยกตัวอย่างเช่น สุนัขโดเต็มวัยหนัก 10 กก.ทำหมันแล้วและเคลื่อนไหวน้อย ควรให้กินบาร์ฟต่อวันอยู่ที่ 10X2% = 0.2 กก.หรือ 200 กรัม ถ้าให้วันละ 2 มื้อ จะเฉลี่ยให้บาร์ฟมื้อละ 100 กรัม
.
*สามารถปรับลด-เพิ่ม สัดส่วนได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางร่างกายขณะนั้น เช่น ความถี่การออกกำลังกาย/ อ้วนหรือผอมเกินไป / ทำหมันแล้ว / ตั้งท้อง / มีโรคประจำตัว
.
ส่วนแมว เน้นให้ปริมาณบาร์ฟตามนน.ตัว และให้ทานเพียง 2 มื้อต่อวันก็พอ
น้ำหนัก 1-2 กก. กินบาร์ฟวันละ 75-100 กรัม
น้ำหนัก 2-4 กก. ” 100-150 กรัม
น้ำหนัก 4- 6 กก. ” 150-200 กรัม
.
หากต้องการทราบแคลอรี่สามารถใช้โปรแกรมที่หน้าเว็บนี้เป็นตัวช่วยในการคำนวณ
.
.
โดยกรอกน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงในช่อง Pet Weight ติ๊กเลือก Kilograms เลือกว่าทำหมันแล้วหรือยังไม่ได้ทำ และคะแนน BCS แล้วจึงกดCalculate ก็จะออกมาเป็นปริมาณแคลอรีที่สุนัขหรือแมวของเราจะต้องทานใน 1 วัน
.
การให้อาหารปริมาณเหมาะสมและไม่มากจนเกินไป จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ ช่วยให้สุขภาพดีและอายุยืน อย่าให้ตามใจเด็กๆเพียงเพราะติดนิสัยขอเพิ่มหรืออยากเอาใจ ถ้าคำนวนสูตรมาอย่างดี รับรองว่าอิ่มพอต่อความต้องการแน่นอนครับ:)
.
.
.