ตัวอย่างเมนูบาร์ฟสำหรับสุนัขโต
–ตัวอย่างเมนูบาร์ฟสำหรับสุนัขโต–
.
.
สำหรับน้องหมาวัยโต (อายุตั้งแต่ 1- 7 ปี) เมื่อตัดสินใจอยากให้บาร์ฟ ลองฝึกให้ทานแบบหักดิบก่อนในช่วงแรก เพราะน้องหมา(ส่วนใหญ่)ยังคงมีระบบย่อยที่แข็งแรง สามารถย่อยอาหารดิบได้อย่างไม่มีปัญหา หากผ่านไป 1 สัปดาห์โดยไม่พบผลข้างเคียง (ไม่มีภาวะอาเจียน ถ่ายเหลว หรือท้องเสียให้เห็น) แสดงว่าระบบย่อยแข็งแรงพอสามารถปรับมาทานบาร์ฟได้อย่างสมบูรณ์
.
ส่วนผสมบาร์ฟ (Adult Dog) ประมาณ 1 กก.
.
อกไก่บดลอกหนัง 400 กรัม
โครงไก่ลอกหนังบดละเอียด 250 กรัม
หัวใจไก่ 50 กรัม
ตับไก่ 50 กรัม
ผักคอส 30 กรัม
ต้นอ่อนทานตะวัน 30 กรัม
แครอท 30 กรัม
กะหล่ำปลีม่วง 30 กรัม
ถั่วงอก 30 กรัม
แอปเปิ้ล 50 กรัม
ไข่ไก่ดิบ 1 ฟอง
โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอกสกัดเย็น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้งแท้ 1/4 ช้อนชา
บริวเวอร์ยีสต์(ไม่จำเป็น) 1/2 ช้อนชา
วิตามินซี 1,000 mg 1 เม็ด
.
วิธีทำ
.
1. นำส่วนผสมที่เป็นกระดูกดิบ เนื้อสด
และเครื่องใน มาสับหรือบดให้ละเอียด
2. ถัดมาให้นำผักและผลไม้มาปั่นร่วมกัน
ให้ละเอียด (หรือจะสับเป็นชิ้นเล็กๆก็ได้)
3. นำวัตถุดิบหลักและไข่ดิบ เทลงในชามคลุก
ผสมรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อกันไม่ให้
น้องหมาเขี่ยของที่ไม่ชอบ (โดยเฉพาะผัก)
4. จากนั้นใส่โยเกิร์ต น้ำมันมะกอก
อาหารเสริม และVitCที่บดแล้วลงไป
5. นำบาร์ฟแบ่งใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
พร้อมให้น้องหมากินอย่างเอร็ดอร่อย
.
.
—————————————————-
น้องหมาวัยโต ควรฝึกให้กินเพียงวันละ1-2 มื้อ
โดยปริมาณที่ทานขึ้นกับสายพันธ์แบ่งเป็น
สุนัขพันธ์เล็ก :ให้ทาน 3-4% ของน.น.ตัว
สุนัขพันธ์กลาง-ใหญ่ :ให้ทาน 2-3 % ของน.น.ตัว
.
*ยกตัวอย่าง น้องหมาพันธ์เฟรนช์บูลด็อก อายุ 3 ปี น้ำหนัก 12 กก. คำนวนออกมาแล้วให้ทานบาร์ฟวันละ 240-360 กรัม แบ่งให้ทานวันละ 2 มื้อ เฉลี่ยมื้อละ 120-180 กรัม
—————————————————
.
.
1.สามารถปรับปริมาณเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ขึ้นอยู่กับนิสัยการกิน รวมถึงความถี่การออกกำลังกายในแต่ละวัน (กินเก่งก็ให้เยอะ กินน้อยก็ให้น้อย แต่ให้ปริมาณในช่วง%ที่บอกไป)
.
2. ในส่วนที่เป็นโครงไก่นั้น หมออยากแนะนำให้สั่งซื้อแบบบดสำเร็จรูป เพราะมีความละเอียดมากกว่าการสับด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการติดคอหรือป้องกันฟันหัก แต่ถ้าเลี้ยงน้องหมาพันธ์ใหญ่ที่มีกรามและฟันแข็งแรง สามารถทานกระดูกแบบสับเป็นชิ้นเล็กได้ครับ
.
3.อาหารเสริมมีความสำคัญเพียง 5-10% และไม่จำเป็นต้องใส่ให้ครบทุกตัว โดยโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก จะช่วยในเรื่องกลบกลิ่นคาวเลือดและเพิ่มรสชาติความอร่อย แต่ถ้าน้องหมากินง่ายมาก จะใส่แค่เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และไข่ดิบ เท่านี้ก็เพียงพอครับ
.
4.สามารถสลับวัตถุดิบจากไก่เป็นเป็ดได้ เพื่อป้องกันการเบื่อ และอาจเปลี่ยนจากผักคอสเป็นผักใบเขียวอื่นๆ เช่น ผักกาดหอม, สลัดแก้ว, กวางตุ้ง, คะน้า และหมุนเวียนผักหลากสีให้บ่อยโดยยึดตามปริมาณที่คำนวนมาแล้ว
.
5.สูตรเมนูนี้หมอคำนวนโภชนาการสำหรับบาร์ฟ 1 กก.เท่านั้น ถ้าจะทำปริมาณเยอะกว่านี้ก็ต้องคำนวนปริมาณการให้อาหารเสริมใหม่หมด (ไม่แนะนำให้ใส่แบบ X2 X3 เพราะทำให้สารอาหารผิดเพี้ยน) โดยสูตรนี้เหมาะสำหรับให้ผู้เลี้ยงมือใหม่ทำบาร์ฟแบบง่ายๆด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อผลิตไปขาย
.
ขอให้เมนูนี้มีประโยชน์แก่แฟนเพจท่านที่มีสุนัขวัยโต และอยากลองทำบาร์ฟด้วยตัวเอง ลองเข้าครัวและหัดทำตามได้เลยครับ:)
.
.