สรุป8หัวใจสำคัญสำหรับการทำบาร์ฟแก่สุนัข
🎉บทส่งท้าย #สรุป8หัวใจสำคัญสำหรับการทำบาร์ฟแก่สุนัข
.
ถ้าได้อ่านบทความของหมอจนถึงตอนนี้ 
อย่างน้อยคุณน่าจะเข้าใจความสำคัญ
ของโภชนาการสัตว์เลี้ยงมากกว่าเมื่อก่อน 
ยิ่งถ้าคุณตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพสุนัข
เป็นพิเศษ บาร์ฟคืออีกหนึ่งทางเลือกที
ช่วยให้พวกเขามีภูมิต้านทานแข็งแรง
และลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ 
.
แต่มีเงื่อนไข คือ “ต้องให้อย่างถูกวิธีเท่านั้น” 
ดังนั้น หมอจะสรุปใจความสำคัญเรื่องบาร์ฟ
ให้เข้าใจกันอีกสักรอบ เพื่อประโยชน์แก่
เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ทำบาร์ฟด้วยตัวเองครับ
.
╔═════════════╗
1️⃣ควรรู้ส่วนผสมทุกอย่าง
ในบาร์ฟแต่ละมื้อ
╚═════════════╝
.
การทำอาหารสุนัขด้วยตัวเอง นั้นหมายถึง
ผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่ทุกขั้นตอนการเตรียม 
และหาซื้อส่วนผสมทุกอย่าง ทั้งวัตถุดิบหลัก
ที่เป็น เนื้อสัตว์ โครงไก่ เครื่องใน ไข่ ฯลฯ
รวมถึงวัตถุดิบรอง อย่างผัก ผลไม้ อาหารเสริม

เผื่อกรณีน้องหมากินบาร์ฟเข้าไป แล้วอาเจียน 
หรือแพ้จนผื่นขึ้นเต็มตัว เราจะได้วินิจฉัยถูก
ว่าเป็นเพราะส่วนผสมชนิดไหน จะได้เลี่ยง
วัตถุดิบนั้น แล้วเปลี่ยนไปให้อย่างอื่นแทน 
.
╔═════════════╗
2️⃣ส่วนผสมดีเท่าไร 
บาร์ฟมื้อนี้ยิ่งมีประโยชน์
╚═════════════╝
.
“กินอะไรเข้าไปก็ได้อย่างนั้น” 
ประโยคนี้ใช้ได้กับน้องหมาเช่นกัน
ดังนั้น ถ้าเราคัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพ 
ใช้วัตถุดิบเกรด Human / Organic
ที่ปลอดจากสารพิษ ย่อมเป็นหลักประกันว่า
สุนัขจะได้รับสารอาหารครบ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ 
เอนไซม์ตัวสำคัญ และสารต้านอนุมูลอิสระ 
อย่าลืมว่าอาหารสุนัขที่ถูกหลักโภชนาการ 
ไม่ควรมีส่วนผสมที่เป็นแป้ง ข้าวโพด น้ำตาล
และกากธัญพืช รวมถึงสารสังเคราะห์ต่างๆ
.
╔═════════════╗
3️⃣พยายามคุมปริมาณอาหาร
ในแต่ละวันให้เหมาะสม 
╚═════════════╝
.
สุนัขที่กินบาร์ฟจะมีโครงสร้างกล้ามเนื้อ
แข็งแรง ดูสมส่วน และไม่ค่อยมีไขมันส่วนเกิน 
แต่ถ้าเผลอให้ปริมาณในแต่ละวันมากเกินไป 
ก็เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้เช่นกัน โดยวิธีให้บาร์ฟ
ที่ถูกต้อง ควรเทียบสัดส่วนตาม
% น้ำหนักตัวของสุนัข และช่วงอายุ
.
*ถ้าท่านยังไม่เข้าใจวิธีคำนวณ ฝากย้อน
กลับไปอ่านในบทความ 2.6 นะครับ 
หมอได้เขียนอธิบายเป็นฉากๆ 
และยกตัวอย่างมาให้ดูทั้งหมดล่ะ 
.
╔═════════════╗
4️⃣สุนัขแต่ละตัวมีความต้องการ
สารอาหารที่แตกต่างกัน
╚═════════════╝
.
สุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง หรือขนร่วงง่าย 
อาจต้องเสริมอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน
คุณภาพ เช่น เนื้อปลา หรือน้ำมันมะพร้าว

ส่วนสุนัขน้ำหนักเกิน ก็ควรคุมปริมาณแคลอรี่ 
โดยให้กินโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เช่น อกไก่ 
และลดอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน 
รวมถึง ข้าว และขนมสุนัขที่มีความหวาน

สุนัขที่เป็นเบาหวานหรือเป็นไตวายเรื้อรัง
ก็ต้องคุมสัดส่วนโปรตีนและไขมันให้สมดุล
งดผลไม้หวาน จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต 
เพื่อคุมไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง 
ดังนั้นการให้บาร์ฟ โดยเฉพาะสุนัขป่วยจะต้อง
พิถีพิถันเมื่อเทียบกับสุนัขสุขภาพปกติครับ
.
╔═════════════╗
5️⃣ค่อยๆให้เวลาสุนัข
ปรับเปลี่ยนมากินบาร์ฟ 
╚═════════════╝
.
สุนัขแต่ละตัวมีความแข็งแรงของระบบย่อย
ไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับ อายุและสายพันธุ์ 
บางตัวกินได้ทันที แต่บางตัวต้องใช้เวลา 
ถ้าผู้เลี้ยงตัดสินใจให้บาร์ฟแล้วพบปัญหา
ในช่วงแรก ก็ต้อง “อดทน” สักระยะหนึ่ง 
ไม่ใช่พอเห็นน้องหมาอาเจียน หรือท้องเสีย
เพียงครั้งเดียวก็เลิกให้ทันที บางครั้ง
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น เป็นเพียงกระบวนการ
ที่ร่างกายกำลังปรับตัวเข้ากับบาร์ฟ ดังนั้น 
อย่าวิตกกับอาการที่เกิดขึ้นมากเกินไปครับ
.
╔═════════════╗
6️⃣ต้องใส่ใจความสะอาด
ในทุกขั้นตอน
╚═════════════╝
.
เพราะบาร์ฟเป็นอาหารประเภทสดดิบ 
จึงต้องระวังเชื้อโรค และพยาธิที่อาจปะปนมา 
พยายามใส่ใจ 3 ขั้นตอนนี้ให้ดี ได้แก่ 
✔️ทราบแหล่งที่มาของวัตถุดิบ 
✔️รู้ขั้นตอนการจัดเก็บ 
✔️เวลาเข้าครัวลงมือทำ
เพื่อให้แน่ใจเรื่องความสะอาด
และปลอดเชื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

อย่าเพิ่งโทษบาร์ฟ คือต้นเหตุทำให้สุนัขป่วย 
แต่ควรโทษความไม่รอบคอบในการจัดเตรียม
โปรดจำไว้ว่า หัวใจหลักของการทำบาร์ฟ 
เรื่อง”ความสะอาด”ต้องมาเป็นอันดับแรกครับ
.
╔═════════════╗
7️⃣วางแผนการให้บาร์ฟอย่างไร
ให้สมดุล ใน 1 เดือน
╚═════════════╝
.
การทำบาร์ฟนั้นไม่ใช่เรื่องยาก 
แต่การใส่ใจรายละเอียด และหมุนเวียน
ส่วนผสมทุกมื้อเป็นสิ่งที่ยากกว่า แม้เรามั่นใจ
ว่าบาร์ฟทุกมื้อที่เราทำมีสัดส่วนถูกต้อง 
แต่การให้สุนัขกินบาร์ฟที่มีแต่ส่วนผสมเดิมๆ 
ย่อมไม่ต่างไปจากการกินอาหารสำเร็จรูป
.
พยายามสับเปลี่ยนวัตถุดิบในทุกสัปดาห์ 
เช่น ถ้าสัปดาห์แรก เราให้เนื้อไก่ โครงไก่ 
แครอท ฟักทอง และน้ำมันมะกอกไปแล้ว 
สัปดาห์ถัดไป เราควรให้ เนื้อปลา ผักโขม 
บล็อกโคลี่ โยเกิร์ต หรือน้ำมันมะพร้าว

ประโยชน์ของการหมุนเวียนวัตถุดิบ นอกจาก
สุนัขจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล
ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบื่ออาหารด้วย
.
╔═════════════╗
8️⃣ป้องกันความเสี่ยงโรคภัย
ด้วยการเสริมวิตามินและแร่ธาตุ
╚═════════════╝
.
ถ้าอยากให้สุนัขของเราสุขภาพดีแบบยั่งยืน 
โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาแพงๆภายหลัง 
พยายามทำอาหารทุกมื้อให้เป็นยา 
ดังประโยค “Let Food Be Thy Medicine 
& Medicine Be Thy Food” 
.
ด้วยการเสริมวิตามินและแร่ธาตุในบางมื้อ 
เช่น บริวเวอร์ยีสต์ วิตามิน C,B,E สมุนไพร 
แคลเซียมเสริม ผงเปลือกไข่ โยเกิร์ต ฯลฯ
เพราะร่างกายสุนัขก็ไม่ต่างจากร่างกายมนุษย์
ถึงแม้ว่าเราจะกินอาหารครบ 5 หมู่ แต่นั่นไม่ได้
หมายถึงเราจะได้คุณค่าสารอาหารครบถ้วน 
การกินวิตามิน และอาหารเสริมเข้าไปเพื่อ
เป็นการรับประกันสุขภาพให้ดีอีกทางหนึ่ง 
.
<<มุมมองหมอเป็ด>>
.
.
ปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นในทุกวันนี้ มากกว่า 40% เกิดจากผู้เลี้ยงให้อาหารเม็ด
คุณภาพต่ำ รวมถึงให้อาหารคลุกที่ไม่ถูกหลัก
โภชนาการ อย่าง ของทอด ปิ้ง ย่าง

แต่อาหารบาร์ฟ คืออาหารสดดิบที่เลียนแบบ
วิถีการกินตามธรรมชาติแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็น
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้เลี้ยงยุคใหม่
ที่อยากดูแลสุนัขให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของน้องหมา
ในทางที่ดีขึ้น มีปัญหาสุขภาพน้อยลง 
.
นอกจากผลลัพท์ที่เกิดขึ้นกับน้องหมาแสนรัก
คุณเองก็จะมีความสุขในการเลือกซื้อวัตถุดิบ 
และมีพลังใจในทุกขั้นตอนในการเตรียม 
.
สุดท้ายนี้ หมออยากให้รู้ว่าการทำอาหารสุนัข
ที่ถูกหลักนั้น ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนและยุ่งยาก 
หรือต้องผ่านกระบวนการวิจัยจากห้องแล็ป 
แต่คือการให้อาหารสด ที่เราหาซื้อได้ตาม
ท้องตลาดทั่วไปนี่ล่ะ อย่าเพิ่งปิดโอกาส
ไม่ให้สุนัขที่เลี้ยงลองกินบาร์ฟ เพราะเคย
เชื่อข้อมูลผิดๆว่าบาร์ฟนั้นเป็นอันตราย
.
ขอให้คุณพิสูจน์ด้วยตัวเอง ไม่แน่คุณจะรู้ว่า 
“บาร์ฟ” คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สุนัขสุขภาพดีครับ
.
.
❤️With Love Your Pets #หมอเป็ด🐤
ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับบาร์ฟ
สนใจบาร์ฟพรีเมี่ยมและเรียนทำอาหาร
หมอเป็ด สัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านบาร์ฟ