🎉ตอนที่ 1.5 #ทางเลือกการให้อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงยุคนี้ 
.
เราควรให้น้องหมาน้องแมวทานอะไร
ถึงได้ประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน 
และเหมาะสมต่อร่างกายมากที่สุด
ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่คงคิดว่าอาหารเม็ดแบรนด์ดังๆ
น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับแรก เพราะถูกคำนวณ
ตามหลักโภชนาการ ผ่านการทดสอบและการวิจัย
จากห้องแล็ปและสถาบันที่น่าเชื่อถือ 
บางแบรนด์ยังมีสัตวแพทย์ร่วมคิดสูตรอีกด้วย
.
แต่ความจริง ยังมีอาหารอีกหลายประเภท
ที่ผู้เลี้ยงสามารถเลือกให้พวกเขาได้ 
ทั้งอาหารสำเร็จรูปที่มีให้เลือกหลายเกรดมากมาย
เกรดต่ำ/เกรดทั่วไป/เกรดพรีเมี่ยม/เกรดโฮลิสติค/เกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยม
ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด หรือแบบเปียก 
รวมไปถึง การให้อาหารปรุงสุก ซึ่งต้องลงมือทำด้วยตัวเอง 
ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีแก่น้องหมาน้องแมว
เพียงแต่เจ้าของต้องมีความรู้โภชนาการที่ถูกต้อง

📌ส่วนจะมีอาหารประเภทไหนบ้างนั้น 
หมอขอแบ่งเป็น 4 หมวดง่ายๆ ที่ปัจจุบัน
นิยมให้แก่สัตว์เลี้ยงของเรามากที่สุด ลองไปดูกันเลยครับ
.
.
┏━━━━━━━━━━━━━━┓
1️⃣ อาหารสำเร็จรูปประเภททั่วไป 
(Commercial Pet Foods)
┗━━━━━━━━━━━━━━┛
.
.
เป็นอาหารที่นิยมกันมากสุด 
รู้จักกันดีในนามอาหารสำเร็จรูป
แบบเม็ดบรรจุถุง หรือเป็นแบบเปียก
ชนิดบรรจุซองหรือกระป๋อง 
หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ร้านเพ็ทช็อป 
ห้างสรรพสินค้า หรือสถานพยาบาลสัตว์ทั่วไป 
.
ข้อดีของอาหารกลุ่มนี้ คือสะดวกในการเตรียม 
ให้ง่าย เพียงแค่เปิดถุง และเทใส่จานเป็นอันเสร็จ
แถมเก็บได้นานอย่างน้อย 1-2 ปี (หรือนานกว่านั้น)
โดยทางผู้ผลิตจะพยายามโฆษณาว่า 
#มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนและสมดุล 
กินแล้วสุขภาพแข็งแรง ขนสวยเงางาม 
มีคุณค่าครบถ้วนในถุงเดียว 
.
ทั้งนี้ยังแบ่งเป็นหลายเกรด ที่เราเคยได้ยิน 
คือ ซุปเปอร์พรีเมี่ยม โฮลิสติค ออร์แกนิค ฯลฯ
อาหารสำเร็จรูปเกรดบนจะใช้ส่วนผสมคุณภาพดี 
มีมาตรฐานการผลิตสูง สุขภาพของหมาแมวจะดี
เพราะใช้ส่วนผสมที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อยลง 
(กากถั่วเหลือง ข้าว ข้าวโพด) 
มีการใส่วิตามินและแร่ธาตุเสริมเข้ามามากขึ้น 
แต่ก็ต้องยอมรับเรื่อง “ราคา” ที่สูงตามคุณภาพ 
.
⚠️ส่วนข้อเสียของอาหารประเภทนี้ 
เราไม่มีทางรู้เลยว่า บริษัทผู้ผลิตนั้นให้ข้อมูล
ที่ถูกต้องสำหรับผู้บริโภค(น้องหมาน้องแมว)จริงหรือไม่ 
อาจเน้นการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อทำยอดขาย 
แต่คุณค่าของสารอาหารที่ได้รับนั้น
อาจไม่ถูกต้องตามที่บอกไว้ก็ได้ 
ยิ่งถ้าเป็นเกรดทั่วไป-เกรดล่าง มักใช้ส่วนผสมที่มีประโยชน์น้อย
(ผลพลอยได้จากสัตว์ปีก ปลาป่น ดรายยีสต์ ไขมันสัตว์)
เมื่อกินไปนานๆจะก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพ
เช่นเป็นโรคไต โรคตับ เบาหวาน มะเร็ง ก่อนวัยอันควร
อีกทั้งอาหารสำเร็จรูปที่เปิดทิ้งไว้นานอาจเสี่ยง
ต่อการปนเปื้อนเชื้อรา และบูดได้เช่นเดียวกัน 
.
.
=================================
.
.
┏━━━━━━━━━━━━━━━━━━┓
2️⃣ อาหารสำเร็จรูป 
ประเภทประกอบการรักษาโรค 
(Veterinary Prescription Diets)
┗━━━━━━━━━━━━━━━━━━┛
.
.
อาหารสำเร็จรูปประเภทนี้จะมีการคำนวณ
และใส่ส่วนผสมพิเศษ มีวัตถุประสงค์หลักคือ 

🔹เน้นหนักทางโภชนาการในการบำรุงร่างกายของสุนัข

ในขณะที่กำลังเจ็บป่วยจากสภาวะต่างๆ🔹

ส่วนใหญ่สัตวแพทย์มักขอให้ผู้เลี้ยง
เปลี่ยนจากการให้อาหารสำเร็จรูปแบบเดิมมาเป็นสูตรนี้ 
เพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น 
ถ้าสังเกตดีๆ บริษัทอาหารสำเร็จรูป
ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง มักต่อยอด
ด้วยการผลิตอาหารประเภทนี้ตามมาภายหลัง 
.
💕ข้อดีของอาหารประเภทนี้ คือมีสูตรอาหาร
ที่เหมาะกับความต้องการของสุนัขแต่ละตัว 
มีการใส่สารอาหาร และแร่ธาตุที่จำเป็นลงไป

ตัวอย่างเช่น 
-สูตรควบคุมน้ำหนัก 
-สูตรสำหรับสุนัขที่มีปัญหาขับถ่ายไม่ดี 
-สูตรรักษาภาวะภูมิแพ้จากอาหาร
-สูตรควบคุมระดับน้ำตาล
.
⚠️ส่วนข้อเสียของอาหารประเภทนี้ 
คงเป็นเรื่อง #รสชาติที่ไม่ดึงดูดเลย 
เพราะทางผู้ผลิตจะไม่ใส่สารแต่งกลิ่น
และรสชาติ ทำให้หมาแมวส่วนใหญ่เมินหน้าหนี 
หรือแทบไม่ยอมกิน เราสามารถใส่อาหารเสริม
หรือวิตามินที่ช่วยดึงดูดกลิ่น ลงไปเล็กน้อย 
เช่น น้ำมันตับปลา เพื่อกระตุ้นความอยาก 
เพราะถ้าสัตว์เลี้ยงป่วยแล้วไม่ยอมกินอะไรเลย 
ระวังอาการจะยิ่งทรุดลงกว่าเดิมครับ
.
.
===============================

┏━━━━━━━━━━━━━━━━━━┓
3️⃣ อาหารปรุงเองโดยผ่านความร้อน 
(Home-Cooked-Diets)
┗━━━━━━━━━━━━━━━━━━┛
.
.
อาหารประเภทนี้มักเป็นตัวเลือกต่อมา 
กรณีที่น้องหมาน้องแมวเริ่มเบื่อ หรือไม่ยอม
กินอาหารเม็ด เพียงแค่นำอาหารที่เรา
กินอยู่ทุกวันมาแบ่งให้พวกเขาบ้าง 
พอเห็นน้องๆทานอย่างเอร็ดอร่อย 
ผู้เลี้ยงอย่างเราก็ดีใจ
และเริ่มให้อาหารแบบนี้เรื่อยมา 
.
🤓ส่วนใหญ่ที่หมอเจอก็คือเมนูง่ายๆ 
เช่น ข้าวคลุกไก่ทอด ข้าวคลุกตับ
ข้าวคลุกปลาทู หรือเนื้อสับปรุงสุกชนิดต่างๆ 
หรือของทอดปิ้งย่าง หรือ เมนูสุดโปรดของเราเอง 
ที่ผ่านการปรุงรสมาแล้ว เรียกได้ว่า 
เราให้เขากินอะไรก็กินหมดเรียบ 
หารู้ไม่ว่าการให้อาหารประเภทนี้ 
จะทำลายสุขภาพของพวกเขามากที่สุด
.
เพราะอะไรเหรอครับ⁉️
.
อาหารประเภทนี้ แม้ว่าจะถูกปากของพวกเขา 
แต่เป็นอาหารที่………..
#ผิดหลักโภชนาการหมาแมวอย่างรุนแรง 
ตามที่หมอเคยบอกไปว่า 
ระบบย่อยอาหารของสุนัขและแมวไม่เหมือนกับของมนุษย์
หมาแมวคือสัตว์ที่กินเนื้อเป็นหลัก ส่วนมนุษย์เราจะเอนเอียงไปทางสัตว์กินพืชมากกว่า 
ดังนั้น จึงไม่ควรนำอาหารที่เราทานแล้ว 
มาให้สุนัขกินต่อ จึงไม่แปลกใจที่สัตวแพทย์
และบริษัทผลิตอาหารสำเร็จรูป 
พยายามโจมตีการทำอาหารปรุงเอง 
และเชียร์ว่าอาหารสำเร็จรูปนั้นดีกว่า
.
🔥แต่ความจริงแล้ว การทำอาหารปรุงเอง
โดยการผ่านความร้อนนั้น ถ้าเจ้าของมีความรู้
ในการใช้ส่วนผสมของอาหารที่ถูกต้อง 
รู้วิธีเสริมวิตามิน แร่ธาตุ ตามน้ำหนักตัว
และคุมปริมาณแคลอรีที่ต้องการได้ 
.
อาหารปรุงเองก็สามารถช่วยให้พวกเขา
มีสุขภาพดีได้เช่นกัน แต่ถ้าเจ้าของ
ไม่รู้สัดส่วนที่แน่ชัด ไม่รู้ว่าอาหารชนิดไหน
ก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษ ย่อมส่งผล
ให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น เป็นโรคอ้วน 
เบาหวาน และโรคอื่นๆ อีกมากมาย 
.
.
================================
┏━━━━━━━━━━━━━━━━━━┓
4️⃣ การให้อาหารแบบสดดิบ หรือ บาร์ฟ 
(BARF or Raw food diet)
┗━━━━━━━━━━━━━━━━━━┛
.
.
มาดูอาหารประเภทสุดท้าย 
เป็นอาหารที่เพิ่งได้รับความนิยมไม่ถึง 20 ปี
อาจดีต่อสุขภาพ และเหมาะสมต่อ
ระบบย่อยอาหารของสุนัขจริงๆ 
นั่นคือการให้อาหารแบบสดดิบ 
หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ “บาร์ฟ” 

📌บาร์ฟคือคำเรียกจากภาษาอังกฤษ “BARF”
ย่อมากจาก “Bone and Raw Food” หรือ
“Biological Appropriate Raw Food”

คือการนำกระดูกติดเนื้อดิบ โครงไก่ ไข่ดิบ 
ผักผลไม้สด และอาหารเสริม มาบดคลุกรวมกัน 
ในสัดส่วนที่ถูกต้องให้สุนัขและแมวกิน 
อาหารประเภทนี้ ในบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยม 
แต่สำหรับต่างประเทศ บาร์ฟนั้นบูมสุดๆครับ:) 

การให้อาหารแบบดิบๆ เริ่มเป็นที่สนใจ 
ในวงกว้าง ผลการวิจัยหลายชิ้นบอกว่า 
สุนัขที่กินอาหารประเภทนี้ จะทำให้แข็งแรง
สมบูรณ์ตามหลักธรรมชาติ ลดปัญหาโรคภัย
ช่วยให้ฟันสะอาดและเหงือกแข็งแรง 
และยังช่วยให้สุนัขอายุยืนนานกว่าเดิม                           

ข้อดีของการให้อาหารสดที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
จะกระตุ้นความอยากอาหารได้มากกว่า
และช่วย
เสริมสร้างภูมิต้านทาน ได้ดีกว่าอาหารประเภทอื่นๆ
เพราะได้รับสารอาหารและวิตามินเต็มๆ

⚠️แต่ข้อสำคัญที่ผู้เลี้ยงต้องตระหนัก 
คือควรศึกษาหาข้อมูลเรื่องบาร์ฟให้มากๆ 
เพราะถ้าให้บาร์ฟสัดส่วนไม่ถูกต้อง
จะส่งผลต่อสุขภาพ(ในทางที่แย่)มากที่สุด
หรือถ้าไม่มั่นใจ ควรปรึกษาสัตวแพทย์
ที่มีความรู้ด้านโภชนาการโดยตรง
หรือผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์จะดืที่สุดครับ 
.
แม้อาหารแนวบาร์ฟจะมีข้อดีหลายอย่าง 
แต่ถ้าผู้เลี้ยงขาดความเข้าใจในการทำ 
ย่อมส่งผลให้สุนัขป่วยและเจ็บไข้ได้ง่ายมาก 
การให้อาหารประเภทนี้จึงต้องดูข้อจำกัดให้ดี 
ทั้งสายพันธ์ น้ำหนัก สุขภาพโดยรวม
รวมถึงประวัติโรคประจำตัวของสุนัขแต่ละตัว

✔️บาร์ฟจึงเป็นอาหารที่ต้องใส่ใจรายละเอียด
ในการจัดเตรียมมากที่สุด ยิ่งถ้าผู้เลี้ยงเข้าใจ
หลักการให้อาหารประเภทนี้อย่างถ่องแท้ 
เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพ
อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรูปร่างจะสมส่วนกว่
เมื่อเทียบกับการให้อาหารชนิดอื่นแน่นอนครับ
.
=================================
.
<มุมมองหมอเป็ด>
.
.
โดยส่วนตัว หมอมองว่าบาร์ฟเป็นตัวเลือก
ที่ดีที่สุด สำหรับอาหารสุนัขในยุคปัจจุบันครับ
.
ส่วนใครที่ยังมีความกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไร 
ก็ไม่ต้องห่วงนะ เพราะเนื้อหาถัดไป 
หมอจะเริ่มสอนหลักการทำอาหารแก่สุนัข 
โดยเฉพาะอาหารแนวบาร์ฟ อีกทั้ง 
ปูพื้นฐานโภชนาการที่ถูกต้องแก่ผู้เลี้ยงทุกคน 
ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจ อ่านซ้ำบ่อยๆ
สงสัยอะไรตรงไหน ก็ทักถามหมอได้เลย
.
#เพราะหมออยากให้สุขภาพของน้องหมาน้องแมวแข็งแรงทุกตัวจริงๆครับ
.
.
❤️With Love Your Pets #หมอเป็ด🐤

จำหน่ายบาร์ฟพรีเมี่ยม สูตร Balance สำหรับลุกสุนัขและสุนัขโตทุกสายพันธ์

📍มีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อมากยิ่งลดมาก+จัดส่งฟรี
 ✨พร้อมของแถมสุดพิเศษประจำเดือน💕

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการ สั่งซื้อบาร์ฟ ให้แอดไลน์ @barfnista มาคุยกับหมอเป็ดได้เลย ยินดีให้คำแนะนำเต็มที่ครับ:)

 
ข้อมูลบาร์ฟ
สนใจบาร์ฟพรีเมี่ยมและเรียนทำอาหาร
หมอเป็ด สัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านบาร์ฟ