–ผักที่แนะนำสำหรับทำบาร์ฟสุนัข–
.
.
สุนัขทุกตัวสามารถทานผักแบบดิบๆ โดยไม่กระทบต่อระบบย่อยและดีต่อสุขภาพ (ยกเว้นผักบางชนิด)เพราะผักอุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารพฤกษาเคมี ดังนั้นอย่าลืมให้น้องหมากินผักกันนะ โดยบาร์ฟในแต่ละมื้อควรมีผักอย่างน้อย 10-15% (ปริมาณ 1/5 ของชาม) อาจใส่ลงไป 2- 5 ชนิดก็ได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา
.
จริงๆผักแทบทุกอย่างในบ้านเรา น้องหมาสามารถกินได้หมดครับ แต่ผักที่หมอเลือกมาทั้ง 12 ชนิดนี้เป็นผักที่ผู้เลี้ยงสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง
.
ผักไทยทั้ง 12 ชนิด ได้แก่ แครอท ฟักทอง ถั่วงอก ผักกาดขาว ผักกาดหอม กะหล่ำปลีม่วง ถั่วแขก คะน้า กะหล่ำดอก ต้นอ่อนทานตะวัน ถั่วลันเตา และรากบัว
.
ส่วนผักต่างประเทศที่สุนัขกินได้เช่นผักสลัด (สลัดแก้ว ,เรดโอ๊ก ,กรีนโอ๊ก ,คอส ,บัตเตอร์เฮด) รวมทั้งหน่อไม้ฝรั่ง พาร์สลีย์ บีทรูท ,บล็อคโคลี่ ,ซูคินี และแตงกวาญี่ปุ่น
.
#ผักที่ควรนำไปนึ่งก่อน (ผ่านความร้อนเล็กน้อย) คือฟักทอง บีทรูท หน่อไม้ฝรั่ง และบล็อคโคลี่ เพราะสุนัขบางตัวพอทานแบบดิบแล้วทำให้ระบบย่อยรวน อาจทำให้อาเจียน
.
#ผักที่ห้ามให้สุนัขทาน ได้แก่ หัวหอม มะเขือเทศ มันฝรั่ง พริก อะโวคาโด และมะเขือทุกชนิด เพราะเป็นพิษต่อร่างกาย อาจทำให้ไตวาย หรือช็อคจากภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ฯลฯ
.
#ผักที่พอให้ได้แต่อย่าบ่อยคือ ผักโขม บล็อคโคลี่ กะหล่ำดอกและ กะหล่ำปลี มีการศึกษามาว่าถ้าสุนัขกินบ่อยๆ อาจทำให้เกิดภาวะ Hypothyroid อาจให้ทานน้อยๆหรือสัปดาห์ละ 1-2 มื้อก็พอครับ
.
ในปริมาณผักทั้งหมด จำนวน 50 % ควรเป็นผักใบเขียว ส่วนอีก 50 %คือผักต่างชนิดหลากสี (เน้นย้ำว่า%ของผักใบควรมีมากกว่าผักชนิดอื่นครับ)
.
ถ้าอยากให้น้องหมามีสุขภาพแข็งแรง และมีภูมิต้านทานโรคต่างๆ การให้น้องหมากินผักเป็นประจำ คือสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงห้ามลืมครับ:)
.
.