🍶 โยเกิร์ต: อาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสุขภาพลำไส้


เขียนโดย: หมอเป็ด – สัตวแพทย์เจ้าของแบรนด์อาหารสุขภาพ BARFnista 

 โยเกิร์ตได้รับความนิยมในกลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เนื่องจากเป็น อาหารเสริมธรรมชาติ (Natural Supplement) ที่มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งในเรื่องของระบบย่อย ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพลำไส้

โยเกิร์ตมีจุดเด่นคือประกอบด้วย:

  • ✅ แคลเซียมธรรมชาติ → เสริมกระดูกและฟัน

  • ✅ โปรตีนคุณภาพสูง → เสริมกล้ามเนื้อและฮอร์โมน

  • ✅ โปรไบโอติกส์ → ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

  • ✅ วิตามิน B และ D → เสริมการทำงานของระบบประสาทและภูมิคุ้มกัน


🧬 โยเกิร์ตช่วยอะไรกับร่างกายสัตว์เลี้ยง?

  • ลดปัญหา ท้องผูก/ท้องเสีย

  • ฟื้นฟูลำไส้หลังการกิน ยาปฏิชีวนะ

  • เสริมภูมิต้านทานจากภายใน

  • ช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • เพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ (gut microbiome)


🐶 ปริมาณโยเกิร์ตที่แนะนำต่อวันสำหรับ “น้องหมา”

น้ำหนักตัวปริมาณโยเกิร์ตต่อวัน
ไม่เกิน 5 กก. (พันธุ์จิ๋ว)1–1.5 ช้อนชา
5–10 กก. (พันธุ์เล็ก)2 ช้อนชา
10–20 กก. (พันธุ์กลาง)4 ช้อนชา – 1 ช้อนโต๊ะ
20–40 กก. (พันธุ์ใหญ่)1–2 ช้อนโต๊ะ
มากกว่า 40 กก. (พันธุ์ยักษ์)2–4 ช้อนโต๊ะ

💡 แนะนำให้แบ่งทานหลังมื้ออาหาร และไม่ควรให้เกินจากปริมาณที่แนะนำ


🐱 แมวก็กินโยเกิร์ตได้… แต่ “ต้องพอดี”

แมวเป็นสัตว์ที่ดื่มน้ำน้อยโดยธรรมชาติ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานช้ากว่าสุนัข
การให้โยเกิร์ตเสริมจะช่วยให้อึนิ่มขึ้น ลดภาวะท้องผูกในแมวสูงวัยหรือแมวที่กินอาหารเม็ดล้วนๆ

ปริมาณแนะนำ:

  • วันละ 1–2 ช้อนชา

  • ให้หลังมื้ออาหาร 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์

  • ถ้าไม่มีอาการท้องเสีย สามารถให้บ่อยขึ้นเป็น 3–5 วัน/สัปดาห์ได้


🚫 ระวัง! โยเกิร์ตบางประเภทไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง

แม้ว่าจะเป็นโยเกิร์ตเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกชนิดจะปลอดภัยสำหรับสุนัขและแมว เพราะผลิตภัณฑ์จากนมวัวส่วนใหญ่มักมี แลคโตส (lactose) ซึ่งสัตว์เลี้ยงไม่สามารถย่อยได้ดี จึงเสี่ยงทำให้:

  • ท้องเสีย

  • ท้องอืด

  • มีลมในกระเพาะ

  • อาเจียนหลังทาน


✅ แล้ว “โยเกิร์ตแบบไหน” ที่หมอแนะนำ?

🥇 กรีกโยเกิร์ตธรรมชาติ (Natural Greek Yogurt)

  • มี โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป

  • ผ่านการกรอง → ลดน้ำตาลและแลคโตสเกือบหมด

  • ย่อยง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า

  • ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแต่งกลิ่น ไม่ใส่ผลไม้

✔ หมอใช้กรีกโยเกิร์ตในหลายเมนูบาร์ฟและอาหารปรุงสุก เพราะปลอดภัย ย่อยง่าย และเสริมสุขภาพได้จริง

***หรือหากกรีกโยเกิร์ตแพงไป แนะนำให้ใช้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ แบบไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยก็ได้ครับ


❗ ถ้าน้องหมา/แมวกินโยเกิร์ตแล้ว “ยังถ่ายเหลว”?

หากให้ในปริมาณพอเหมาะแต่ยังพบว่า:

  • ถ่ายเหลว

  • อาเจียน

  • ท้องเสียทุกครั้ง

  • มีลมหรือปวดท้องหลังรับประทาน

👉 ควร “งดโยเกิร์ตจากนมวัวทั้งหมด” และพิจารณาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์จาก นมแพะ หรือ ทางเลือกอื่นที่ไม่มีแลคโตส


🍽️ วิธีใช้โยเกิร์ตในเมนูอาหารสัตว์เลี้ยง

  • ผสมในบาร์ฟหรืออาหารปรุงสุก

  • คลุกกับผักบดหรือผลไม้ เช่น กล้วย ฟักทอง แอปเปิ้ล

  • ผสมกับ Bone Broth เป็นซุปกระตุ้นการกิน

  • แช่ฟรีซเป็น “ไอศกรีมสำหรับสุนัข” ในหน้าร้อน


📌 หมอสรุปให้ง่ายๆ:

คำถามคำตอบ
ให้น้องหมาแมวกินโยเกิร์ตได้ไหม?✅ ได้ ถ้าเลือกชนิดที่เหมาะสม
ควรเลือกแบบไหน?✅ กรีกโยเกิร์ตธรรมชาติ
กินได้ทุกวันไหม?✅ ได้ แต่ควรอยู่ในปริมาณพอเหมาะ
มีอาการท้องเสียหลังทาน?❌ งดนมวัว / เปลี่ยนเป็นนมแพะ
ต้องเสริมไหมถ้าอาหารย่อยยาก?✅ ใช้โยเกิร์ตช่วยได้ดีโดยเฉพาะหลังใช้ยาปฏิชีวนะ

🐾 ส่งท้ายจากหมอเป็ด:

โยเกิร์ตไม่ใช่แค่อาหารว่างของมนุษย์ แต่เป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์กับสัตว์เลี้ยงของเราอย่างมาก
ถ้าเลือกประเภทให้เหมาะ และให้ในปริมาณที่พอดี จะช่วยสร้างลำไส้ที่แข็งแรง ฟื้นภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความสุขให้น้องหมาน้องแมวได้ในทุกๆ มื้อเลยครับ


หากต้องการสูตรเมนูสุขภาพที่มีโยเกิร์ตเป็นส่วนผสม หรือคำแนะนำเฉพาะตามสุขภาพของน้องหมาแมว
📲 ทักหมอได้ที่ Line@ : @barfnista   / หมอยินดีแนะนำครับ 🐶🐱🧡