
โยเกิร์ต: อาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสุขภาพลำไส้
เขียนโดย: หมอเป็ด – สัตวแพทย์เจ้าของแบรนด์อาหารสุขภาพ BARFnista
โยเกิร์ตได้รับความนิยมในกลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เนื่องจากเป็น อาหารเสริมธรรมชาติ (Natural Supplement) ที่มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งในเรื่องของระบบย่อย ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพลำไส้
โยเกิร์ตมีจุดเด่นคือประกอบด้วย:
แคลเซียมธรรมชาติ → เสริมกระดูกและฟัน
โปรตีนคุณภาพสูง → เสริมกล้ามเนื้อและฮอร์โมน
โปรไบโอติกส์ → ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
วิตามิน B และ D → เสริมการทำงานของระบบประสาทและภูมิคุ้มกัน
โยเกิร์ตช่วยอะไรกับร่างกายสัตว์เลี้ยง?
ลดปัญหา ท้องผูก/ท้องเสีย
ฟื้นฟูลำไส้หลังการกิน ยาปฏิชีวนะ
เสริมภูมิต้านทานจากภายใน
ช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ (gut microbiome)
ปริมาณโยเกิร์ตที่แนะนำต่อวันสำหรับ “น้องหมา”
น้ำหนักตัว | ปริมาณโยเกิร์ตต่อวัน |
---|---|
ไม่เกิน 5 กก. (พันธุ์จิ๋ว) | 1–1.5 ช้อนชา |
5–10 กก. (พันธุ์เล็ก) | 2 ช้อนชา |
10–20 กก. (พันธุ์กลาง) | 4 ช้อนชา – 1 ช้อนโต๊ะ |
20–40 กก. (พันธุ์ใหญ่) | 1–2 ช้อนโต๊ะ |
มากกว่า 40 กก. (พันธุ์ยักษ์) | 2–4 ช้อนโต๊ะ |
แนะนำให้แบ่งทานหลังมื้ออาหาร และไม่ควรให้เกินจากปริมาณที่แนะนำ
แมวก็กินโยเกิร์ตได้… แต่ “ต้องพอดี”
แมวเป็นสัตว์ที่ดื่มน้ำน้อยโดยธรรมชาติ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานช้ากว่าสุนัข
การให้โยเกิร์ตเสริมจะช่วยให้อึนิ่มขึ้น ลดภาวะท้องผูกในแมวสูงวัยหรือแมวที่กินอาหารเม็ดล้วนๆ
ปริมาณแนะนำ:
วันละ 1–2 ช้อนชา
ให้หลังมื้ออาหาร 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์
ถ้าไม่มีอาการท้องเสีย สามารถให้บ่อยขึ้นเป็น 3–5 วัน/สัปดาห์ได้
ระวัง! โยเกิร์ตบางประเภทไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง
แม้ว่าจะเป็นโยเกิร์ตเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกชนิดจะปลอดภัยสำหรับสุนัขและแมว เพราะผลิตภัณฑ์จากนมวัวส่วนใหญ่มักมี แลคโตส (lactose) ซึ่งสัตว์เลี้ยงไม่สามารถย่อยได้ดี จึงเสี่ยงทำให้:
ท้องเสีย
ท้องอืด
มีลมในกระเพาะ
อาเจียนหลังทาน
แล้ว “โยเกิร์ตแบบไหน” ที่หมอแนะนำ?
กรีกโยเกิร์ตธรรมชาติ (Natural Greek Yogurt)
มี โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป
ผ่านการกรอง → ลดน้ำตาลและแลคโตสเกือบหมด
ย่อยง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า
ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแต่งกลิ่น ไม่ใส่ผลไม้
หมอใช้กรีกโยเกิร์ตในหลายเมนูบาร์ฟและอาหารปรุงสุก เพราะปลอดภัย ย่อยง่าย และเสริมสุขภาพได้จริง
***หรือหากกรีกโยเกิร์ตแพงไป แนะนำให้ใช้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ แบบไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยก็ได้ครับ
ถ้าน้องหมา/แมวกินโยเกิร์ตแล้ว “ยังถ่ายเหลว”?
หากให้ในปริมาณพอเหมาะแต่ยังพบว่า:
ถ่ายเหลว
อาเจียน
ท้องเสียทุกครั้ง
มีลมหรือปวดท้องหลังรับประทาน
ควร “งดโยเกิร์ตจากนมวัวทั้งหมด” และพิจารณาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์จาก นมแพะ หรือ ทางเลือกอื่นที่ไม่มีแลคโตส
วิธีใช้โยเกิร์ตในเมนูอาหารสัตว์เลี้ยง
ผสมในบาร์ฟหรืออาหารปรุงสุก
คลุกกับผักบดหรือผลไม้ เช่น กล้วย ฟักทอง แอปเปิ้ล
ผสมกับ Bone Broth เป็นซุปกระตุ้นการกิน
แช่ฟรีซเป็น “ไอศกรีมสำหรับสุนัข” ในหน้าร้อน
หมอสรุปให้ง่ายๆ:
คำถาม | คำตอบ |
---|---|
ให้น้องหมาแมวกินโยเกิร์ตได้ไหม? | |
ควรเลือกแบบไหน? | |
กินได้ทุกวันไหม? | |
มีอาการท้องเสียหลังทาน? | |
ต้องเสริมไหมถ้าอาหารย่อยยาก? |
ส่งท้ายจากหมอเป็ด:
โยเกิร์ตไม่ใช่แค่อาหารว่างของมนุษย์ แต่เป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์กับสัตว์เลี้ยงของเราอย่างมาก
ถ้าเลือกประเภทให้เหมาะ และให้ในปริมาณที่พอดี จะช่วยสร้างลำไส้ที่แข็งแรง ฟื้นภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความสุขให้น้องหมาน้องแมวได้ในทุกๆ มื้อเลยครับ
หากต้องการสูตรเมนูสุขภาพที่มีโยเกิร์ตเป็นส่วนผสม หรือคำแนะนำเฉพาะตามสุขภาพของน้องหมาแมว
ทักหมอได้ที่ Line@ : @barfnista / หมอยินดีแนะนำครับ 



