วิธีเลือก “เนื้อสัตว์” สำหรับหมาป่วย
และสาเหตุที่ทำไมต้องหมุนเวียนเนื้อ?
.
เวลาที่ผู้เลี้ยงทำเมนูอาหารปรุงสุกหรือบาร์ฟ ควรมีการหมุนเวียนวัตถุดิบโดยเฉพาะในส่วนที่เป็นเนื้อสัตว์ จำเป็นต้องหมุนสลับทุกๆ 3-7 วัน ชนิดเนื้อที่นิยมให้หมาแมวทานและหาซื้อง่ายสุด ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อปลา และเนื้อวัว เพียงหมุนเวียนแค่ 4 ชนิดนี้ รับประกันว่าได้สารอาหารครบถ้วน เดี๋ยวหมอจะอธิบายให้ฟังว่าเนื้อแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เนื้อไก่ : จัดเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมาก เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีไขมันน้อย (ถ้าไม่ทานส่วนหนัง) ส่วนของเนื้อไก่ที่มีโปรตีนสูง และไขมันน้อยสุด คือ เนื้อส่วนอก ถือเป็นเนื้อเบสิคที่เหมาะสำหรับสุนัขและแมว มีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ แต่ถ้าให้น้องหมากินแต่เนื้อไก่อย่างเดียว นานวันเข้าก็มีโอกาสแพ้ได้
เนื้อปลา : ขึ้นชื่อว่า Healthy ที่สุด มีโปรตีนคุณภาพชนิดที่ย่อยง่าย มีไขมันดีที่เรียกว่า “โอเมก้า 3” อยู่สูงมาก และยังมีวิตามินแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายอีกหลากหลายชนิด เนื้อปลานั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย มีไขมันต่ำที่สุด ปราศจากคาร์โบไฮเดรต เป็นเนื้อที่ดีที่สุดแต่น้องหมาส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบเพราะมีกลิ่นคาว ถ้าจะให้แบบดิบต้องเป็นปลาทะเลเท่านั้น เพราะเสี่ยงพบพยาธิน้อยกว่าปลาน้ำจืด
เนื้อเป็ด : เป็นสัตว์ปีกประเภทเดียวกับไก่ แต่มีปริมาณสารอาหารที่แตกต่างกันพอสมควร มีไขมันและคอเรสเตอรอลมากกว่าเนื้อไก่ แถมมีปริมาณโปรตีนน้อยกว่า จึงไม่ควรให้สุนัขที่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับไขมัน เช่นตับอ่อนอักเสบ หรือต้องการคุมน้ำหนัก ทานบ่อยเกินไป แนะนำให้ใช้ส่วนสันในหรือเนื้ออกจะได้มีปริมาณไขมันน้อย มักให้สุนัขกินเนื้อเป็ดเป็นโปรตีนหลัก กรณีที่มีปัญหาแพ้เนื้อไก่
เนื้อวัว : ถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง แต่ก็ก็มีไขมันมากไม่แพ้กัน มีรสชาติหอมและเนื้อสัมผัสอร่อยกว่าเนื้ออื่นๆ แต่ข้อเสียคือ เนื้อวัวจะค่อนข้างเหนียวและย่อยยาก ต้องระวังในการให้สุนัขสูงวัยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เพราะเนื้อวัวจะย่อยยากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด และมีปัญหาท้องผูกตามมา
#ข้อควรระวัง หากน้องหมามีปัญหาสุขภาพระยะแรก ยังสามารถหมุนเวียนเนื้อได้ครบทั้ง 4 ชนิด แต่ถ้าน้องหมาป่วยหนัก “ควรให้ทานแค่เฉพาะเนื้อไก่และเนื้อปลาเท่านั้น” เพราะเป็นเนื้อที่ย่อยง่ายและมีปริมาณไขมันต่ำ (สุนัขที่ป่วยเป็นโรคต่างๆแทบทุกโรคจำเป็นต้องคุมระดับไขมัน จึงควรงดการให้เนื้อที่มีไขมันสูงอย่างเนื้อเป็ดและเนื้อวัว)
.
การที่เจ้าของไม่เคยให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารแบบอื่นบ้างนอกจากอาหารเม็ดเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ว่าผู้เลี้ยงจะให้อาหารสำเร็จรูปแบบเม็ดหรือเปียก เมนูอาหารปรุงสุก หรืออาหารบาร์ฟ จำเป็นต้องหมุนเวียนวัตถุดิบหรือเปลี่ยนสูตรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ #แพ้โปรตีนจากการกินเนื้อชนิดเดียวติดต่อกันนานเกินไป (ส่วนใหญ่คือระยะเวลา 1-6 เดือนแล้วแต่ภูมิต้านทานของสุนัขแต่ละตัว)
.
การให้อาหารเมนูเดิมๆ ถึงจุดหนึ่งสุนัขก็ย่อมเบื่อ อีกทั้งเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ ที่พบเป็นประจำคือ แพ้เนื้อไก่ แพ้เนื้อวัว แพ้แป้งธัญพืชและผักบางชนิด ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงหรือมีผื่นแดงขึ้นตามลำตัว และยังต้องระวังภาวะขาดสารอาหารและแร่ธาตุบางชนิด กระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมเร็วกว่าปกติ เสี่ยงเป็นโรคอันตราย ทั้งโรคมะเร็ง โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไต และเบาหวาน ในภายหลัง
.
ดังนั้นเจ้าของควรฝึกให้น้องหมากินอาหารหลากชนิดเข้าไว้ เหมือนที่คนเราก็ควรทานอาหารให้ครบ5หมู่ เพื่อประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวครับ