ทุกวันนี้ การวิจัยเกี่ยวกับอาหารสดดิบยังคงพัฒนาอยู่ แต่สิ่งที่มั่นใจว่าอาหารสดดิบ(บาร์ฟ)ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติและไม่ผ่านการแปรรูป มีผลดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง มีหัวใจสำคัญคือ “เตรียมอย่างถูกวิธี ใช้ของสดใหม่ สะอาด และผสมถูกสัดส่วน” โดยหลักของการให้อาหารบาร์ฟ เกิดขึ้นจากไอเดียที่ว่า ในอดีตสุนัขเป็นสัตว์ป่าที่กินเนื้อและพืชตามธรรมชาติ ก่อนภายหลังจะถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงและปรับปรุงสายพันธุ์ ปรับวิถีชีวิตและการให้อาหาร จนกระทั่งเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
แล้วทำไมผู้เลี้ยงควรฝึกให้น้องหมาน้องแมวลองทานบาร์ฟ มีเหตุผลอยู่ 4 ข้อ ที่พบได้ในอาหารประเภทนี้เท่านั้น ได้แก่
1.ได้รับสารอาหารแบบจัดเต็มกว่า
สุนัขและแมวที่กินอาหารสดดิบ (BARF) จะได้รับสารอาหารที่ครบและเป็นธรรมชาติที่สุด โดยไม่สูญเสียสารอาหารที่เป็นประโยชน์หรือโครงสร้างทางเคมีที่สำคัญไปเนื่องจากความร้อน หากผู้เลี้ยงเตรียมอาหารสดดิบอย่างถูกต้อง นอกจากไม่มีอันตรายต่อสุนัขและแมว ยังมีประโยชน์ทางโภชนาการมากมาย ตัวอย่างเช่น โปรตีนและไขมันคุณภาพจากเนื้อสัตว์, แบคทีเรียที่ดี, เอนไซม์, สารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ โดยที่สารอาหารเหล่านี้ไม่ได้ถูกทำลายหรือแปรสภาพโดยความร้อน ในขณะที่อาหารสำเร็จรูป แม้จะใช้กระบวนการผลิตที่ดีแค่ไหน แต่ก็หนีไม่พ้นกระบวนการแปรรูปซึ่งส่งผลให้สูญเสียคุณค่าทางวิตามินและแร่ธาตุไม่มากก็น้อย
2.เป็นอาหารที่ถูกต้องตามหลักสายพันธ์
อาหารบาร์ฟ หรือ อาหารสดดิบ เป็นการให้อาหารที่ช่วยให้สุนัขและแมวได้กลับคืนสู่วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เพราะเดิมทีสุนัขที่เราเลี้ยงก็คือสุนัขป่าที่กินของดิบและเนื้อสดมาก่อน ส่วนแมวนั้นมีบรรพบุรุษมาจาก “เสือ” ดังนั้นแมวจึงเป็นสัตว์ที่กินเนื้อแทบจะ 100% แม้ปัจจุบัน สายพันธ์สุนัขมีการปรับเปลี่ยนสรีระไปบ้าง ทำให้อาหารชนิดนี้อาจไม่เหมาะกับสุนัขบางชนิด โดยเฉพาะสายพันธุ์หน้าสั้น อย่างเช่นปั๊ค หรือ เฟรนช์บูลด็อก ที่อาจมีแรงกัดเคี้ยวไม่เพียงพอ แต่ถ้าผู้เลี้ยงให้อาหารดิบที่ผ่านการบดละเอียด ก็ช่วยให้เคี้ยวง่ายขึ้น
3.การให้อาหารสดดิบช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะภูมิแพ้ในอนาคต
มีผลการวิจัยรายงานว่า ลูกสุนัขที่ทานอาหารสดดิบตั้งแต่วัยเด็ก มีโอกาสเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเมื่อโตเต็มวัยน้อยกว่าลูกสุนัขที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารเม็ด โดยลูกสุนัขที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ด มีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้มากกว่าเลี้ยงด้วยอาหารสดดิบ 200-300% เมื่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ดังนั้นการเริ่มต้นโภชนาการที่ดีตั้งแต่ช่วงหลังหย่านม (2-6 เดือนแรก) ด้วยการให้อาหารสดดิบ ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ช่วยเสริมภูมิต้านทาน โดยเฉพาะสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนังในอนาคตได้
* Canine Atopic Dermatitis (CAD) หรือมักเรียกว่าภูมิแพ้ผิวหนัง โรคยอดฮิตในน้องสุนัขที่มักเกิดจากอาหาร สิ่งแวดล้อม หรือการส่งผ่านทางพันธุกรรม เป็นโรคที่มีใช้จ่ายในการรักษาที่สูงและโอกาสในการรักษาให้หายขาดนั้นมีน้อยมากๆ แต่สามารถบรรเทาและป้องกันได้ด้วยอาหารสดดิบ (BARF) ที่มีโภชนาการถูกต้อง ครบถ้วนและสมดุล
4.การให้อาหารสดดิบช่วยลดความเสื่อมและการการอักเสบในร่างกาย
โรคความเสื่อมและการอักเสบ เช่น โรคมะเร็ง โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไต โรคตับ เป็นโรคยอดนิยมที่สุนัขมักเป็นเมื่อมีอายุมากขึ้น หากลองศึกษาย้อนไปก่อนยุคอาหารเม็ด โรคเหล่านี้ไม่ใช่โรคที่พบได้บ่อยเหมือนอย่างในปัจจุบัน และยิ่งพบได้ยากในสุนัขป่าที่ล่าเหยื่อกินเองตามธรรมชาติ ดังนั้น การที่สุนัขในเมืองมีความเสี่ยงเป็นโรคอันตรายได้ง่าย ส่วนหนึ่งเกิดจากการทานอาหารที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ ดังนั้นอาหารสดดิบที่มีความสมดุลทางโภชนาการ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของคุณให้มีสุขภาพดีสมบูรณ์อย่างที่ควรเป็น
*อาหารสดดิบจากธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านความร้อน จะมี “Life Enzyme” ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดโอกาสเกิดโรคอันตรายต่างๆเช่น เบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคหัวใจ โรคข้อกระดูกเสื่อม รวมถึงโรคมะเร็ง นอกจากนี้ การกินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปยังช่วยให้สุนัขและแมวมีอายุยืนขึ้น 5-10 %
การให้อาหารบาร์ฟ จึงเป็นการคืนวิถีการกินแบบดั้งเดิมของสุนัขและแมวตามธรรมชาติ ให้พวกเค้าได้กินเนื้อดิบ หรือ อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆ เพื่อลดการสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารและได้รับสารอาหารจากแหล่งวัตถุดิบนั้นๆ อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การเตรียมอาหารบาร์ฟต้องใช้เวลาและความใส่ใจอย่างมาก การเตรียมเนื้อดิบหรือกระดูกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้สุนัขและแมวเกิดอาการติดเชื้อ ท้องเสียและเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ หรือไว้ใจอาหารสดดิบ BARFnista เราผลิตอาหารบาร์ฟล็อตใหม่ทุกสัปดาห์ ไม่เติมแต่งด้วยอาหารเสริมสังเคราะห์ พร้อมส่งตรงอาหารที่ทำจากจากใจถึงบ้านคุณ เพื่อมื้ออาหารความสุขที่ลูกๆของคุณตั้งตารออยู่